eng
competition

Text Practice Mode

บิทคอยน์กับคำแนะนำจากกูรู

created Dec 17th 2017, 05:38 by Somporn Sangyothin


1


Rating

82 words
7 completed
00:00
บิทคอยน์กับคำแนะนำจากกูรู
พอราคาของ Bitcoin หรือ “เงินดิจิทัล” พุ่งพรวดพราดอย่างน่าตกใจ ก็เกิดคำถามขึ้นมากมาย
หนึ่งในคำตอบที่น่าทึ่งมากเป็นอย่างรูปที่ผมนำเสนอมาให้ดู นักวิเคราะห์คนหนึ่งบอกว่าวงจรของราคาบิทคอยน์จะขึ้นลงแบบที่เห็นนี้
นั่นคือจะไต่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็จะทำให้มีการเรียกว่าเป็น “ฟองสบู่” (bubble)
หลังจากนั้นจะร่วงลงมา แล้วค่อย ไต่ขึ้นไปใหม่ จุดสูงสุดใหม่จะสูงกว่าจุดสูงสุดครั้งก่อน
พอถึงจุดนั้นก็จะมีการตะโกนว่า “นี่มันฟองสบู่ชัด ๆ” ซึ่งก็จะนำไปสู่การร่วงลงของราคาบิทคอยน์
จากนั้นราคาก็จะวิ่งขึ้นอีกรอบ และจะไปถึงจุดที่สูงกว่าครั้งที่แล้ว
นี่เป็นรูปแบบขึ้นสูงลงต่ำ และย้อนขึ้นสูงอีกมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
ล่าสุดขณะที่ผมเขียนอยู่นี้ราคาบิทคอยน์ กระโดดไปที่ $18,000 และทำท่าว่าจะพุ่งขึ้นไปอีกหลังจากเข้าไปซื้อขายในตลาดสินค้าล่วงหน้าหรือ futures ที่ชิคาโก
ผมถามกูรูเรื่องนี้ก็ได้คำตอบไปสองทางซึ่งไปกันคนละขั้ว
คนหนึ่งบอกว่าบิทคอยน์เป็นเรื่องไม่จริง เป็นการสร้างกระแส เป็นฟองสบู่ เป็นแม่ชม้อย เดี๋ยวมันก็จะแตก ใครหลงไปลงทุนก็จะหมดเนื้อหมดตัว อย่าหาว่าไม่เตือนก็แล้วกัน จีนก็ประกาศห้ามแล้ว หลายประเทศก็ไม่ยอมรับ
 
อีกคนหนึ่งบอกว่าบิทคอยน์เป็นเงินสกุลดิจิทัลที่มีอนาคตแน่นอน เพราะตรวจสอบได้ มีความโปร่งใส ญี่ปุ่นยอมให้ใช้เป็นเงินที่ใช้หนี้ได้ตามกฎหมาย ออสเตรเลียและสวิตเซอร์แลนด์ก็ยอมรับว่า เป็นกระแสที่มีความสำคัญ อีกทั้งเมื่อเกิดความไว้วางใจสูงขึ้นทุกขณะ วันหนึ่งก็จะกลายเป็นเงินสกุลที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง
 
คนกลุ่มแรกเตือนว่าถ้าใครไปลงทุนบิทคอยน์จะเจ๊งไม่เป็นท่า
 
คนอีกกลุ่มหนึ่งเตือนว่าถ้าไม่รีบลงทุนในบิทคอยน์วันนี้จะเสียใจเพราะจะตกรถไฟขบวนใหญ่ ในประเทศไทยก็มีคนไทยที่เล่นบิทคอยน์แล้วไม่น้อยกว่าสองแสนคน และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย
 
ตารางที่ผมนำมาให้ดูมาจากนักวิเคราะห์คนหนึ่งที่บอกว่า รูปแบบของการขึ้นลงของราคาบิทคอยน์จะสวิงแบบหวือหวาอย่างนี้ แต่ท้ายที่สุดจะวิ่งไปถึง $100,000 หรือสูงกว่านั้น
 
ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ต้องใช้วิจารณญาณของตนเอง แต่สำหรับผมยึดคติที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด ไม่ผลีผลามแต่ก็ไม่ใจเย็นเกินไป
 
คำแนะนำจากผู้รู้ก็คือหากจะลงทุนในบิทคอยน์ก็ต้องเป็นเงินเย็น ถือเสียว่าหากสูญไปก็เป็นการซื้อบทเรียนเพื่อติดตามสถานการณ์ หากบิทคอยน์เกิดได้จริงเราก็จะได้บอกตัวเองว่าเราไม่ล้าสมัยจนเกินไปนัก
 
ธนาคารกลางของไทยก็มีท่าทีทำนองนี้ ยังเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด เตือนให้คนไทยระวังและให้ศึกษาอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่สั่งห้ามเหมือนบางประเทศ
 
เพราะเอาเข้าจริง แล้วทุกคนทุกสถาบันต่างก็ต้องจับตาเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของ crypto currencies ที่เป็นกระแสใหม่ที่ไม่มีธนาคารกลางประเทศไหนกำหนดให้เกิดหรือให้สลายหายไปได้
 
เพราะโลกดิจิทัลอยู่เหนือการควบคุมและคาดการณ์
 
แม้ธนาคารกลางที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกก็ยังถูก “ป่วน” (disrupt) ได้อย่างเหลือเชื่อจริง ๆ!

saving score / loading statistics ...